ควายธนู เป็นเครื่องรางตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ สะท้อนให้เห็นระบบความเชื่อทางไสยศาสตร์ของสังคมเกษตรกรรม อันมีความผูกพันกับวัฒนธรรมข้าว ซึ่งเลี้ยงวัวควายไว้ใช้งานในด้านการเกษตร วิชาเหล่านี้เป็นการทำหุ่นพยนต์รูปแบบหนึ่ง หุ่นพยนต์สามารถทำได้ทั้งรูปคนและสัตว์ ที่นิยมมีทั้งวัวธนูและควายธนู สามารถสร้างได้หลายวิธี เช่น สานจากไม้ไผ่ ปั้นด้วยดินผสมมวลสาร ปั้นจากขี้ผึ้ง ไปจนถึงหล่อขึ้นด้วยโลหะอาถรรพ์ เช่น ตะปูโลงศพเจ็ดป่าช้า ,เหล็กขนันผีพราย ,เหล็กยอดเจดีย์ เป็นต้น เอามาหลอมรวมกันหล่อเป็นรูปควาย บางสำนักใช้โครงเป็นไม้ไผ่แล้วพอกด้วยครั่งที่ได้จากต้นพุททรา เมื่อทำสำเร็จแล้วต้องปลุกเสกตามพิธีกรรม แล้วเลี้ยงไว้ให้ดี ต้องหาหญ้าและน้ำเลี้ยงเสมอ เชื่อว่าสามารถใช้ให้เฝ้าบ้านหรือไร่นา ใช้งานได้ตามความประสงค์ ทั้งป้องกันภูตผีและโจรผู้ร้าย และสามารถสั่งให้ไปสังหารคู่อริได้อีกด้วย มีคาถาใช้เสกเมื่อทำควายธนูว่า โอมปู่เจ้าสมิงไพร ปู่เจ้ากำแหงให้กูมาทำควาย เชิญพระอีศวรมาเป็นตาซ้าย เชิญพระอาทิตย์มาเป็นตาขวา เชิญพระนารายณ์มาเป็นเขา เชิญพระอินทร์เจ้าเข้ามาเป็นหาง เชิญพระพุทธคีเนตร์ พระพุทธคีนายมาเป็นสีข้างทั้งสอง เชิญพระจัตตุโลกบาลทั้งสี่มาเป็นสี่เท้า เชิญฝูงผีทั้งหลายเข้ามาเป็นไส้พุง นะมะสะตีติ

ช่วงหลังมานี้ รู้สึกว่าจะโดนปรมาณูชุดใหญ่ถล่มหลายระลอก โดยเรื่องราวทั้งหมดนั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องเก่าค้างปีที่ถูกเอามาเล่าใหม่ พร้อมสาวความให้ลึกลงไป หรือไม่ก็ฉายซ้ำอยู่นับครั้งไม่ถ้วน เลยทำให้ผู้อ่านหลายๆ ท่านเกิดความรู้สึกไม่ดีในตัวผม จริงๆ เรื่องราวเหล่านี้ มันไม่มีอะไรเป็นพิเศษ และไม่ได้น่าสนใจอะไร... มันเป็นเรื่องส่วนตัว ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดใน Pantip เพราะเป็นเวทีใหญ่ที่ผู้คนให้ความสนใจมาก และ Nancon. ก็มีที่มาจากที่นี่เช่นกัน กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น การที่ผมเงียบไป ไม่ได้แปลว่าไม่รู้ร้อนรู้หนาว... รู้ครับ แต่ก็เก็บอาการไว้ เกรงว่าตอบโต้อะไรออกไปจะเป็นผลดีต่อตัวเองมากขึ้นไปอีก แต่ไหนๆ วันนี้ก็เลือกที่จะเขียนแล้ว ก็ขอพูดอะไรให้ฟังหน่อย ถ้าไม่อยากอ่านหรือรำคาญก็ขอให้ผ่านไป แต่ถ้าอยากจะรู้อะไรบ้างก็ลองอ่านดูนะครับ อาจจะยาวหน่อย แต่คงไม่น่าเบื่อเพราะมีภาพปลาสวยๆ มาฝากทุกย่อหน้า

การรักการอ่านเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญที่เด็กทุกเพศทุกวัยจะต้องได้รับการฝึกฝนให้มีนิสัยรักการอ่าน เมื่อเด็กรักการอ่านตั้งแต่เล็กๆ แล้วก็จะเป็นผลดีต่อการเรียน ต่อการปรับตัวให้เข้ากับสังคม และสิ่งแวดล้อมของเด็กได้ การต้องการให้เด็กเกิดความอยากรู้อยากเห็น อยากอ่าน เพื่อที่จะสร้างทัศนคติที่ดีต่อการอ่านของเด็กก็ต้องอาศัยสิ่งที่ยั่วยุที่มีอิทธิพลต่อเด็กทั้งอารมณ์ ภาษา และสติปัญญา ซึ่งก็มีอยู่หลายอย่าง และหนึ่งในนั้นก็คือ ภาพการ์ตูน ในปัจจุบันการเขียนการ์ตูนสามารถสื่อออกมาได้หลายรูปแบบ โดยผ่านตัวละครทั้งที่เป็นคน สัตว์ สิ่งของ จากการศึกษาธรรมชาติของเด็ก ความสำคัญของการอ่าน และภาพการ์ตูนจะเห็นได้ว่าทั้ง 3 อย่างมีส่วนเกี่ยวข้องกันในแง่ของการอ่านจะช่วยส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้และสิ่งที่ช่วยให้เด็กมีทัศนคติที่ดีต่อการอ่านนั่นคือหนังสือการ์ตูน เนื่องจากวัยที่เหมาะสมสำหรับการส่งเสริมการอ่านที่ดีที่สุด คือ เด็กวัย 9 ขวบ ซึ่งเด็กในวัยนี้จะสนใจภาพการ์ตูนที่เป็นคนและสัตว์ แต่ไม่ทราบว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน และอาจส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก ผู้วิจัยจึงเกิดความสนใจที่จะเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความชอบต่อรูปแบบการ์ตูนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างการอ่านหนังสือการ์ตูนที่ใช้ตัวดำเนินเรื่องเป็นการ์ตูนคนและการ์ตูนสัตว์

ฟุตบอลนั้นเป็นกีฬา "นำเข้า" มาสู่เยอรมันตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ในห้วงเวลาที่กีฬาหลักของเยอรมันคือยิมนาสติก ซึ่งถือเป็นกีฬาพื้นฐานในการเตรียมพร้อมพลเมืองเข้าสู่ประเทศที่ให้ความสำคัญกับการทหาร ฟุตบอลเริ่มได้รับความนิยมในสังคมเยอรมันตามเมืองท่าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในหมู่ของชนชั้นกลางสมัยใหม่ และนักธุรกิจ และกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นภายหลังการเปลี่ยนระบบการทำงานของกรรมาชีพที่ลดเวลาทำงานเหลือ 8 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้มีเวลาในการนันทนาการมากขึ้น

คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินว่า Computare ซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคำนวณ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ว่า "เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ ที่ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์"